6/19/2558

วัดสิรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว อ.สิรินธร Unseen แห่งใหม่ของจ.อุบลราชธานี ที่เที่ยวอีสานใต้ Wat Sirindhornwararam

Unseen แห่งใหม่ของจ.อุบลราชธานี วัดสิรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว อ.สิรินธร ที่เที่ยวอีสานใต้

วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันสั้นๆ ว่า "วัดภูพร้าว" กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว เนื่องจากมีอุโบสถศิลปะล้านช้างที่งดงาม และมีสิ่งมหัศจรรย์ที่ถือว่าเป็นไฮไลท์เลย ได้แก่ ศิลปะต้นกัลปพฤกษ์ที่ด้านหลังอุโบสถที่สามารถเรืองแสงได้เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืดลง

วัดสิรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว อ.สิรินธร Unseen แห่งใหม่ของจ.อุบลราชธานี ที่เที่ยวอีสานใต้

วัดวรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว ใกล้ด่านชายแดนช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงชัน มีการจำลองสภาพแวดล้อมของวัดป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาศ โดยบริเวณบนยอดเขาจะมองเห็นพระอุโบสถสีปัดทองตั้งเด่นเป็นสง่า

นักท่องเที่ยวที่ได้ขึ้นไปชมวัดแห่งนี้จะพากันรอจนถึงพระอาทิตย์ตกดินเพื่อชมประติมากรรมต้นกัลปพฤกษ์เรืองแสง ที่จะค่อยๆ เรืองแสงหลังพลบค่ำ และขอพรจากต้นกัลปพฤกษ์ ซึ่งเป็น Unseen Thailand แห่งใหม่ นอกจากนี้ทางวัดกำลังจะสร้างสระอโนดาตบริเวณด้านทิศตะวันตกขอพระอุโบสถ นอกจากความมหัศจรรย์ของพระอุโบสถแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีจุดชมวิวในช่วงพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมาก จะเป็นพระอาทิตย์ตกบริเวณเขื่อนสิริธร และบริเวณด้านหลังพระอุโบสถเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ของฝั่งประเทศลาวและมองเห็นด่านสากลช่องเม็กอย่างสวยงาม รวมทั้งอ่างเก็บน้ำที่อยู่บริเวณเชิงเขาคล้ายกับทะเลสาป

สำหรับต้นกัลปพฤกษ์ด้านหลังที่ทำให้วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว เป็นที่รู้จักไปทั่วนั้น เป็นฝีมือการออกแบบของช่างคณากร ปริญญาปุณโณ ผู้ลงมือติดโมเสกแต่ละชิ้นด้วยตัวเองและเป็นเจ้าของไอเดียใช้สารเรืองแสงที่เรียกว่า ฟอสเฟอร์ phosphor รอบต้น ทำให้ต้นไม้นี้ปรากฏสีเขียวเรืองแสงเมื่อยามค่ำคืน โดยมีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้แห่งชีวิตในภาพยนตร์เรื่องอวตาร

นอกจากนี้ตัวอุโบสถมีต้นแบบมาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว แต่มีความกว้างมากกว่า 1 เท่า และความยาวมากกว่า 2 เท่า เสาแต่ละต้นลงลวดลายด้วยมือ โดยรอบนอกเป็นลายดอกบัวและสัตว์ทั้งหลายตามคติบัว 4 เหล่า ทางเข้าเป็นต้นสาละ เขยิบเข้ามาเป็นต้นมะขามป้อม ต้นสมอ และด้านในสุดเป็นต้นโพธิ์


ส่วนพระประธานมีผู้นำมาถวายวัด ดั้งเดิมเป็นองค์พระพุทธชินราช แต่ช่างคณากรได้ออกแบบใหม่โดยถอดรัศมีและพระเกตุมาลาออก แล้วแกะสลักไม้เป็นต้นโพธิ์ไปวางอยู่ด้านหลังพระประธาน ส่วนตัววัดนั้น เจ้าอาวาสวัดคนปัจจุบันเล่าให้ฟังว่า ท่านพระอาจารย์บุญมากเป็นผู้ริเริ่ม ท่านเป็นคนฝั่งลาวจำปาสักเข้ามาเผยแพร่อบรมสมาธิทางฝั่งไทย และได้ปักกลดที่ภูพร้าวแห่งนี้ในปี 2497-2498 ต่อมาปี 2516ท่านได้ขอบิณฑบาตพื้นที่ให้เป็นวัดจากทางหน่วยทหาร
การเดินทาง
การเดินทางไปวัดสิรินธรหรือวัดภูพร้าว ใช้เส้นทางจากอำเภอสิรินธรจะไปจุดผ่านแดนช่องเม็ก ก่อนถึงช่องเม็กประมาณ 2 กม. จะเจอที่กลับรถ สังเกตุด้านซ้ายมือจะเห็นป้ายวัด เลี้ยวซ้ายขึ้นเขาประมาน 2 กม.

เทศกาลเข้าพรรษานี้ หลังจากเที่ยวชมงานเทศกาลแห่เทียนเข้าพรรษาที่จ.อุบล(คลิกดู)แล้ว อย่าลืมแวะพักผ่อนที่่อุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจ.อุบลราชธานียังมีอีกเยอะ เช่น ปลายฝนต้นหนาวก็ต้องไปดู กุ้งเดินขบวน ภูจองนายอย น้ำตกแสงจันทร์
หน้าหนาวก็ต้องไปเที่ยว ผาแต้ม สามพันโบก ก่อนกลับอย่าลืมแวะ วัดหนองป่าพง
ล่าสุดพบแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่อีก เก้าพันโบก ลักษณะคล้ายกับสามพันโบก
อย่าลืมแวะพักและเที่ยวที่อุทยานสัตว์ป่าอุบลราชธานี และ ต้นไม้เรืองแสงในวัดสิรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว Unseenแห่งใหม่ของจ.อุบลฯ
อันซีนแห่งใหม่แกรนด์แคนยอนอุบลฯ
วัดสิรินธรวรารามหรือวัดภูพร้าว อ.สิรินธร Unseen แห่งใหม่ของจ.อุบลราชธานี ที่เที่ยวอีสานใต้

ไม่มีความคิดเห็น: